วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พรีวิว : iOS 6 (beta) ความสามารถใหม่เพียบ คีย์บอร์ดไทยของ iPhone แบบ 4 แถว และ Siri ใน iPad (3rd Gen)





เปิดตัวกันไปเรียบร้อยสำหรับ iOS 6 ที่แอปเปิ้ลเพิ่มฟีเจอร์ใหม่มาเพียบ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดให้ iPad (3rd Gen) ใช้งาน Siri ได้ด้วย
สำหรับ iOS 6 ที่แอปเปิ้ลเพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เยอะมากจริง ๆ โดยบนหน้าเว็บแอปเปิ้ลก็ได้พรีวิวฟีเจอร์สำคัญ ๆ เอาไว้แล้ว เราลองมาไล่ดูกันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง


Maps 

ใน iOS 6 แอปเปิ้ลเลิกใช้ระบบแผนที่ของ Google หันมาใช้ระบบของตัวเอง พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแผนที่นั้นคือมุมมองแผนที่แบบ 3D และระบบนำทางแบบ Turn-by-turn โดยหน้าตาแผนที่ใน iOS 6 ได้เปลี่ยนไปพอควร สิ่งที่หายไปแน่ ๆ คือ Google Street View ที่ไม่มีในระบบแผนที่อันใหม่บน iOS 6


เท่าที่ลองใช้ระบบแผนที่อันใหม่นี้ของ iOS 6 (beta) สำหรับแผนที่ประเทศไทยยังไม่สามารถดูมุมมองแบบ 3D ได้ โดยเมื่อกดใช้ 3D แผนที่ก็จะเอียงประมาณหนึ่งแต่รูปต่าง ๆ ยังคงแบน ๆ แบบ 2 มิติเหมือนเดิม (กดไปดูที่นิวยอร์คก็เป็นเหมือนกัน) นอกจากนี้การแจ้งเกี่ยวกับการจราจรว่ารถติดหรือไม่ติดยังไม่สามารถใช้งานในกรุงเทพฯได้ รวม ๆ แล้วระบบแผนที่ของแอปเปิ้ลเรียกว่าเพิ่งตั้งไข่ ยังห่างชั้นกับ Google Maps อีกหลายก้าว


สำหรับระบบนำทางเท่าที่ได้ลองแบบคร่าว ๆ ถือว่าดีประมาณหนึ่ง โดยป้ายบอกทางบนหน้าจอถ้าเราเลือการแสดงผลเป็นภาษาไทย การบอกชื่อถนนต่าง ๆ ก็จะเป็นภาษาไทยตามไปด้วย  โดยระบบแผนที่ของแอปเปิ้ลใช้บริการ OpenStreetMap และแผนที่นำทาง TomTom ซึ่งชื่อหลังน่าจะเป็นที่รู้จักของคนที่ใช้อุปกรณ์ GPS ในรถพอสมควร แต่กระนั้นแม้จะมีชื่อ TomTom แปะมาด้วยตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้แผนที่ใน iOS 6 มีความโดดเด่นแต่อย่างใด โดยเฉพาะในประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทย

Siri




ถือว่าเป็นข่าวดีมาก ๆ สำหรับ Siri ที่แอปเปิ้ลกำลังจะเปิดให้ใช้งานบน iPad (3rd Gen) ได้ด้วย โดย Siri ใน iOS 6 รองรับภาษาใหม่ ๆ เข้ามาด้วยเช่นภาษาจีน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี

โดย Siri ใน iPad (3rd Gen) สามารถใช้งานได้ทั้งบนรุ่น Wi-Fi และรุ่น 4G โดยการใช้งาน Siri จะเหมือนกับบน iPhone 4S คือกดปุ่ม Home ค้างไว้เพื่อเรียก Siri ขึ้นมาใช้งาน สำหรับความสามารถของ Siri ใน iOS 6 แอปเปิ้ลได้เพิ่มความสามารถเข้าไปหลายอย่างด้วยกันอย่างเช่น เราสามารถสั่งให้ Siri เปิดแอพฯต่าง ๆ บนเครื่องได้แล้ว , สั่งให้ Siri พิมพ์ข้อความแล้วส่งขึ้น Twitter หรือ Facebook เป็นต้น นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังทำให้ Siri รู้จักการกีฬาต่าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะผลการแข่งขัน ซึ่งตอนแรกที่เห็นบนเวทีเปิดตัวแอปเปิ้ลก็ยกตัวอย่างแต่กีฬาในประเทศตนเองเลยทำให้หวั่น ๆ ว่าแล้วกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลของทางยุโรป Siri จะรู้จักด้วยหรือไม่ ปรากฏว่าพอได้ลองใช้งาน Siri รู้จักฟุตบอลลีกยอดนิยมในยุโรปด้วย เพียงแต่ตอนพูดกับ Siri ต้องใช้คำว่า Soccer แทนคำว่า Football (ลองเลือก Siri เป็นอังกฤษสำเนียงบริติชไม่รู้จักทั้ง Soccer และ Football) นอกนั้นผมลองกับ Euro 2012, Golf, Tennis, U.S. Open เหล่านี้ Siri บอกว่าไม่รู้จัก

สำหรับการสั่งงานทั่วไปเช่นสั่งให้เปิด Bluetooth ในเครื่องหรือเปิด-ปิด Wi-Fi พวกนี้ Siri ยังไม่รู้จัก โดยเมื่อสั่งแล้ว Siri จะนึกว่าเราจะค้นหาคำดังกล่าวบนเว็บแทน

FaceTime



ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ต้องนำมาบอกเล่ากันสักนิดเพราะบน iOS 6 แอปเปิ้ลจะเปิดให้ใช้ FaceTime ผ่าน 3G หรือ EDGE ได้แล้ว (ไม่ขอพูดถึง 4G LTE นะครับ) เรียกว่าต่อไปนี้เราสามารถใช้งาน FaceTime บน 3G กับ EDGE ได้แล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ควรระวังเรื่องการใช้ดาต้าเกินกำหนดด้วยทั้งเรื่อง Fair Use Policy และคนที่ไม่ได้เปิดใช้ Data Unlimited


เท่าที่ได้ลองถ้าบน 3G ถือว่ามีความนิ่งของสัญญาณมากพอควร ภาพไม่กระตุกอะไร ส่วนการใช้งานบน EDGE ยังไม่ได้ลองเพราะใน iOS 6 (beta) ปุ่มเปิดปิด 3G ไม่มี เหลือแค่ปุ่ม Cellular Data อย่างเดียว
ผมยังไม่ได้ลองในชีวิตประจำวันตามปกตินะครับว่า 3G ชอง AIS ที่ช่วงนี้ติด ๆ ดับ ๆ จะเอาอยู่รึเปล่า

คีย์บอร์ดไทย 4 แถว



เชื่อว่าหลาย ๆๆๆๆ คนเห็นหัวข้อนี้คงยิ้มกันแก้มปริ เมื่อเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้วสำหรับคีย์บอร์ดภาษาไทยบน iPhone แอปเปิ้ลได้ทำแบบ 4 แถวออกมาแล้ว โดยปุ่มตัวอักษรภาษาไทยจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อยทำให้กดปุ่มต่าง ๆ ยากไปนิดเพราะตัวปุ่มติดกันไปหมด

นอกจากนี้ในส่วนของ Emoji ได้มีการเพิ่มเติม Emoji 2 เข้ามาด้วย เรียกว่าตอนเลือกใช้ตาลายกันไปข้าง เพราะ Emoji ทั้งใหม่และเก่ามีจำนวนเยอะมาก ๆ

Phone 



สำหรับในส่วนของโทรศัพท์มีการปรับปรุงเรื่องปุ่มกดรับสาย-วางสายใหม่ โดยมีการแทรกปุ่มไอคอนโทรศัพท์มาอีกอันทางมุมขวา โดยเมื่อเราปัดปุ่มดังกล่าวขึ้นมาจะมีปุ่มกด Reply with Mesage กับ Remind Me later เพิ่มเข้ามา

Safari 



มีการเพิ่มความสามารถในส่วนของ iCloud Tabs ที่ต่อไปนี้ไม่ว่าจะอยู่บนเครื่องไหนเราก็ยังเปิดหน้าเว็บเดิมต่อได้, เพิ่ม Offline Reading List , เพิ่มความสามารถในการอัพโหลดรูปภาพผ่าน Safari ได้เลย (ผมลองกับระบบหลังบ้าน WordPress ยังไม่สามารถ)

รวม Facebook มาไว้ในตัว iOS


สำหรับการรวม Facebook มาไว้ใน iOS 6 จะเหมือน ๆ กับตอน iOS 5 รวมร่างกับ Twitter แต่ด้วยความที่ Facebook มีของเล่นเยอะกว่าเลยทำให้ทุกอย่างถูกผสมผสานกันเช่นเรื่องนัดหมายบน Facebook จะมาปรากฏบนปฏิทินในเครื่องเราด้วย วันเกิดเพื่อน ๆ ที่เราเห็นใน Facebook จะถูกนำมาซิงค์ข้อมูลกับสมุดโทรศัพท์ในเครื่องที่ใช้ iOS 6 ด้วย

Shared Photo Stream


ต่อไปนี้ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่สามารถดูรูปใน Photo Stream จากเครื่องไหนก็ได้ที่ล็อกอินด้วย Apple ID เดียวกัน เพราะใน iOS 6 เราสามารถแชร์รูปภาพต่าง ๆ ที่เราต้องการให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวดูได้ด้วย โดยการดูรูปสามารถดูได้จากอุปกรณ์ iOS 6, iPhoto for Mac และดูผ่านหน้าเว็บ

iTunes Store และ App Store ปรับปรุงหน้าตาแบบใหม่


หน้าตา iTunes Store ขายหนัง ขายเพลง โฉมใหม่ใน iOS 6 (iPad)
หน้าตา App Store ขายแอพฯ โฉมใหม่ใน iOS 6 (iPhone)

สำหรับทั้ง 2 สโตร์มีการปรับปรุงโฉมขนานใหญ่ ถ้าดูจากรูปจะเห็นต่างไปจากเดิมพอสมควร โดยสิ่งที่ปรับปรุงเข้ามานอกจากหน้าตาแล้วจะเป็นเรื่องการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับแอพฯดังกล่าวที่เรากำลังดูอยู่ไปยังอีเมล,  ข้อความ, เฟสบุ๊ก และสามารถก็อปปี้ลิงค์ของหน้าเพจแอพฯไปแปะยังที่อื่น ๆ ได้เลย เท่าที่ดูเหมือนว่าจะขาดเรื่อง Gift This App ที่ยังไม่เห็นใน iOS 6 (beta) นี้

Music เปลี่ยนไป

สำหรับหน้าตาภายในแอพฯ Music บน iPhone พอกดเข้าไปจะพบว่ามีหน้าตาเปลี่ยนไป โดยหน้าตาแบบนี้มีกลิ่นอายมาจาก iPad โดยสีของเมนูบาร์ด้านล่างโดนเปลี่ยนเป็นโทนสว่างด้วยสีขาวต่างจากของเดิมที่เป็นสีดำ มีการเปิดแสงเงาเล็กน้อยให้รู้สึกว่าเหมือนเรากด ๆ อะไรอยู่ ส่วนหน้าตาของแอพขณะเล่นเพลงก็เปลี่ยนไปพอสมควร

Passbook (แอพฯใหม่เฉพาะใน iOS 6)



คอนเซ็ปท์ของแอพฯ Passbook ประหนึ่งว่าเป็นตัวคอนจัดการสารพัดเกี่ยวกับบัตรสมาชิกของร้านค้าต่าง ๆ แทนที่เราจะต้องพกบัตรพลาสติกจริง ๆ ก็ไม่ต้องพกกลายเป็นว่าให้ร้านค้าต่าง ๆ ทำระบบรองรับแอพฯ Passbook แทน นอกจากจะใช้ร่วมกับสารพัดบัตรสมาชิกได้แล้ว พวกคูปองส่วนลดต่าง ๆ ก็สามารถประยุกต์ใช้กับแอพฯนี้ได้ด้วย โดยถ้าเป็นคูปองที่มีการจำกัดเวลาหรือใกล้ถึงวันหมดอายุตัวแอพฯก็จะมีการเตือนขึ้นมาด้วย หรืออย่างตั๋วหนัง บัตรดูคอนเสิร์ตก็สามารถใช้ Passbook ได้ด้วย

สำหรับอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับการใช้แอพฯ Passbook คือสายการบินต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ระบบใช้กับ Passbook ได้ก็จะสะดวกมากขึ้น โดยการเตือนเวลาเราเดินไปขึ้นเครื่องบินถ้าเราเดินไปผิดทางหรือเข้าไปรอผิดเกทตัวแอพจะมีการเตือนขึ้นมาด้วย โดยตรงจุดนี้นอกจากสายการบินแล้วเชื่อว่าระบบของสนามบินก็ต้องรองรับด้วย

โดยรวมสำหรับแอพฯ Passbook คอนเซ็ปท์ดีมาก ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดรึเปล่า แต่สิ่งที่หนึ่งหลังจากเห็นแอพฯนี้เชื่อลึก ๆ ว่า iPhone รุ่นใหม่น่าจะมีความสามารถของ NFC ติดมาด้วย ซึ่งถ้ามีก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน Passbook ให้หลากหลายขึ้นไปอีก ซึ่งถ้า iPhone รุ่นใหม่มี NFC จริง ก็หวังว่าในบ้านเราจะนำมาประยุกต์ใช้กับบัตร BTS, MRT และ ARL ในอนาคต
แอพฯ Passbook ไม่มีใน iPad นะครับ เท่าที่ลองตอนนี้มีแน่ ๆ ก็คือใน iPhone ส่วนใน iPod touch ผมยังไม่ได้ลองครับ ถ้าได้ลองแล้วจะมาอัพเดทอีกครั้งหนึ่ง

iOS 6 ออกมาให้ดาวน์โหลดหรือยัง ?

ปัจจุบัน iOS 6 (beta) เปิดให้ดาวน์โหลดสำหรับนักพัฒนาแอพฯแล้ว และผู้ใช้งานทั่วไปแอปเปิ้ลบอกว่าจะเป็นให้ดาวน์โหลดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย. ซึ่งก็ต้องมาเดาใจแอปเปิ้ลว่าจะเป็นเดือนไหนกันแน่ ซึ่งถ้า iOS 6 ออกเดือนไหนก็คงมี iPhone ใหม่ออกมาด้วย

เครื่องไหนยังลง iOS 6 ได้บ้าง ?


ไม่ เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแอปเปิ้ลยังเปิดให้ iPhone 3GS ลง iOS 6 ได้อยู่ด้วยและผิดคาดไปเล็กน้อยที่ iPad รุ่นแรกไม่อยู่ในรายชื่อการอัพเดทครั้งนี้ โดยเครื่องที่ลง iOS 6 ได้มีดังนี้
  • iPhone 3GS, iPhone 4 และ iPhone 4S
  • iPod touch 4G
  • iPad 2 และ iPad (3rd Gen)





(c) http://www.siampod.com/2012/06/12/preview-ios-6-beta/

ถ่ายภาพแบบพาโนรามาใน iOS 6



iOS 6 ได้เพิ่มความสามารถเกี่ยวกับการถ่ายรูปให้กับ iPhone 4S และ iPhone 5 มาด้วยซึ่งก็คือการถ่ายภาพแบบ ‘พาโนรามา’ (Panorama) เลยถือโอกาสนี้ทดสอบและถ่ายวิดีโอเพื่อให้ทุกคนเห็นไปพร้อม ๆ กันว่าการถ่ายภาพแบบพาโนราม่าใน iPhone 4S ที่ใช้ iOS 6 เป็นอย่างไร
สำหรบการถ่ายภาพแบบพาโนรามาเมื่อเข้าไปในกล้องถ่ายรูปแล้วก็เลือกกดจากปุ่ม Option จะมีเมนูให้เลือกถ่ายภาพแบบพาโนรามาปรากฏขึ้นมา โดยเมื่อเราเลือกถ่ายอันดับแรกเลยต้องถือกล้องในแนวตั้ง ส่วนตัวเราเองหลัก ๆ ก็ให้ยืนในท่าที่หมุนตัวได้สะดวกเพราะเวลาถ่ายภาพแบบพาโนรามาเราจะแพนกล้องจากซ้ายไปขวาที่จะมีจังหวะการเอี้ยวตัวด้วย จัดระเบียบร่างการเสร็จก็จัดการกดถ่ายได้เลย


สำหรับภาพแบบพาโนรามาที่ถ่ายจาก iPhone 4S ขนาดไฟล์ใหญ่มากทีเดียว แม้จะถ่ายเพียงแค่เพียงช่วงสั้น ๆ ก็ตาม ถ้าดูจากวิดีโอด้านล่างภาพขนาดจริงที่ถ่ายในได้ตอนนั้นมีขนาด 7376 x 2332 พิกเซล (17.2 ล้านพิกเซล) โดยขนาดไฟล์ใหญ่มากถึง 11.5 MB



ทั้งนี้ขนาดไฟล์ใหญ่สุดที่ถ่ายภาพแบบพาโนรามาเท่าที่ผมได้ทดลองบน iPhone 4S ผมถ่ายได้ที่ขนาด 10768 x 2348 พิกเซล (25.2 ล้านพิกเซล) ส่วนขนาดไฟล์ก็มโหฬารถึง 16.9 MB

ถือว่าเป็นข้อมูลที่นำมาให้ได้ทราบกันก่อนจะได้เจอของจริง เพราะเชื่อว่าหลายคนคงอาจนึกไม่ถึงว่าถ่ายภาพพาโนรามาแบบนี้จะกินเนื้อที่เยอะมาก ตรงนี้ก็ให้เป็นจุดสังเกตในอนาคตถ้าเกิดว่า iPhone 4S หรือ iPhone 5 หรือ iPod touch (5th Gen) ที่เราใช้งานความจุเต็มแน่นเครื่องแล้วก็ลองดูว่าเราถ่ายภาพแบบพาโนรามาไว้เยอะรึเปล่า
**ความสามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่ามีเฉพาะเครื่องดังต่อไปนี้
  • iPhone 5
  • iPhone 4S
  • iPod touch (5th Gen)



(c)  http://www.siampod.com/2012/09/13/panorama-via-iphone-4s-ios-6/

7 ฟีเจอร์ใหม่ของระบบปฏิบัติการ iOS 6



Apple ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 6 ที่ได้อัพเกรดเสริมความสามารถให้มากขึ้นในหลายๆ ส่วน มาดูกันว่า 7 ฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 6 นั้นมีอะไรกันบ้างที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นยิ่งกว่าเดิม



1.แอพพลิเคชั่น Map แผนที่ 3 มิติ ระบบ Flyover การค้นหาเส้นทาง คำนวณระยะเวลาการเดินทาง
Map แผนที่ใหม่บน iOS 6 ไม่ได้ใช้งานจาก Google Map  แต่ได้รับการออกแบบโดย Apple เอง มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มมุมมองในการค้นหาด้วย  Flyover ที่มีความสามารถในการแสดงแผนที่ 3 มิติ แบบสมจริงและสวยงาม  นอกจากนี้ Map ของระบบปฏิบัติการ iOS 6 มีความสามารถมากกว่าเวอร์ชั่นเดิมมากเลยทีเดียว สามารถในการรายงานสภาพการจราจร, ระบบนำทางแบบ turn-by-turn navigation และสามารถใช้งานแผนที่ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ทำให้ค้นหาที่อยู่ร้านค้าในบริเวณเส้นทางได้รวดเร็วทันใจ


นอกจากนั้น ยังสามารถคำนวณระยะเวลาการเดินทาง รวมถึงรายละเอียดระยะทางก่อนการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้อีกด้วย เปรียบเสมือนเนวิเกเตอร์ส่วนตัวเลยทีเดียว การใช้ Map ในเวอร์ชั่นนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายที่เร็วและแรง


2.Mail การใช้งานอีเมลที่มีสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งการตั้งรายชื่อ VIP การแทรกรูปภาพและวิดีโอ การเปิดเอกสารที่ตั้งรหัสผ่าน (Password) ไว้ 


ในเวอร์ชั่นเก่า หลายคนคงจะเหนื่อยกับการค้นหาเมลล์คนสำคัญที่เราต้องการ เพราะด้วยจำนวนเมลล์เข้าที่มากมายจนไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี แต่ใน iOS6 นี่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะเราสามารถ เพิ่มกล่องเมลล์ VIP ที่ทำให้เข้าถึงเมลล์จาก คนสำคัญของคุณ ได้อย่างง่ายดาย โดยเข้าไปที่โปรแกรมMail จะเห็นว่ามีกล่อง VIP ใน Inbox แตะเข้าไปใน VIP จากนั้นเลือกแตะเพิ่ม VIP  และเลือก รายชื่อ Contact  ของคนที่คุณต้องการจะให้เป็นคนสำคัญในกล่องจดหมาย VIP ของคุณได้ในทันทีนอกจากนี้ ยังสามารถแทรกรูปภาพและวีดีโอเพิ่มเข้าไปในเวลาที่เขียนอีเมลได้โดยตรง เพียงแตะสองครั้งที่ที่ว่าง ที่ต้องการเพิ่มรูปภาพ แตะปุ่มลูกศรไปเรื่อยๆ และแตะเลือกใส่ภาพหรือวีดีโอ  จากนั้นให้เลือกรูปภาพหรือวีดีโอในอัลบั้มภาพที่ต้องการจะใส่ และแตะแนบเข้าไป เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดเอกสารประเภท office ที่ใส่รหัสผ่านป้องกันได้อีกด้วยไม่ต้องยุ่งยาก และหากระหว่างนั้นไม่สะดวกที่จะเช็คงานผ่านคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน เราสามารถ Check email ผ่านมือถือ หรือ iPad ได้เลยและการรีเฟรชกล่องเมล์ทำได้ง่ายอีกด้วย แค่ปัดหน้าจอลงมาก็จะเป็นการรีเฟรชกล่องเมล์โดยอัติโนมัติ


3.การใช้งาน Facetime ผ่านเครือข่าย 3G 


โดยเฉพาะการพูดคุยแบบเห็นหน้าด้วย Facetime ที่แต่เดิมต้องใช้งานผ่าน WiFi เท่านั้น  วันนี้สามารถใช้งานผ่าน 3G ได้ทุกที่ทุกเวลา ถ้าจะคุย Facetime แบบชัดๆ ราบรื่นไม่สะดุด ขอแนะนำให้ใช้ผ่านบริการ 3G+ จาก ทรูมูฟ เอช ที่เร็วและแรงกว่า ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในไทย ขณะที่คุย Facetime  สามารถสนทนา ได้โดยใช้กล้องด้านหน้า  หรืออยากจะสลับเป็นกล้องด้านหลังเพื่อให้ปลายสายเห็นสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ก็ทำได้  


4.Photos การแชร์ภาพผ่าน Shared Photo Streams


ฟีเจอร์ Shared Photo Streams ของ iOS 6 เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการแชร์รูปภาพ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการแชร์รูปภาพบน Facebook หรือจะว่าง่ายๆ คือ Photo Streams นั้นเหมือนกับเป็นอีก Social Network หนึ่งของ แอปเปิ้ล เอง เพื่อให้ผู้ใช้แบ่งปันภาพให้เพื่อนได้ทันที ผ่าน iCloud และยังสามารถกด like หรือ comment รูปภาพได้อีกด้วย โดยเริ่มจากแตะไปที่ไอคอน Photos และแตะไปที่อัลบั้มและรูปภาพที่ต้องการแชร์ แตะที่ลูกศรมุมด้านซ้ายและแตะ Shared Photo Streams จากนั้นพิมพ์ชื่อเพื่อนที่ต้องการแชร์ พร้อมตั้งชื่ออัลบั้ม แตะที่ถัดไป หรือจะพิมพ์คำบรรยายเพิ่มเติมก่อนแชร์ให้เพื่อนก็ได้
หมายเหตุ : การใช้งาน Shared Photo Streams ต้องการระบบปฏิบัติการ iOS 6 บนเครื่อง Apple iPhone 4 ขึ้นไป หรือตั้งแต่ iPad 2 ขึ้นไป หรือเครื่อง Mac บนระบบปฏิบัติการ OS X Mountain Lion และต้องมีการอัพเดทโปรแกรมเว็บเบราเซอร์เพื่อใช้งาน Shared Photo Streams บนเว็บไซต์


5.  Phone เลือกตอบกลับเป็นข้อความหรือแจ้งเตือนโทรกลับเมื่อไม่ต้องการรับสาย และการตั้งค่า Do not disturb


อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นของ iOS 6 คือ หากผู้ใช้ไม่ต้องการรับสาย สามารถตอบกลับในรูปแบบข้อความได้ทันที โดยเมื่อมีสายเรียกเข้ามา ให้ slide รูปโทรศัพท์ที่หน้าจอขวามือขึ้นไปด้านบน จากนั้นแตะเลือกตอบกลับเป็นข้อความที่ต้องการส่งออก ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดข้อความตอบกลับได้ตามต้องการ หรือเลือกแจ้งเตือนให้โทรกลับก็ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่า Do not disturb ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งสายโทรเข้า (calls) และการแจ้งเตือน (notifications) เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยเข้าไปที่การตั้งค่า (Setting) แล้วเลือกเปิดใช้ Do not disturb ซึ่งสามารถกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการปิดการแจ้งเตือนได้อีกด้วย


6.Facebook เชื่อมต่อปฏิทินกิจกรรม (Calendar) และรายชื่อ (Contact) รวมถึงการแชร์ภาพจากอัลบั้ม และจากเว็บไซต์บน Safari ไป Facebook  

เอาใจคนที่ชอบใช้ Facebook กดไลค์ แชร์ หรืออัพเดต เพราะไฮไลท์สำคัญที่บรรดาสาวกจะต้องชื่นชอบ คือ การรวม Facebook ไว้ใน iOS 6 ซึ่งทำให้การแชร์ต่างๆ สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 
 
  • ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าที่ไอคอน Facebook แล้วทำการล็อกอิน Username  และ Password ในส่วนด้านล่างจะมีการอนุญาตให้ Facebook เชื่อมต่อกับปฏิทินหรือบัญชีรายชื่อ 
  • หากเลือกให้เชื่อมต่อกับรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อแตะไปในบัญชีรายชื่อจะพบว่า ข้อมูลและ Profile  ของเพื่อนจะถูกอัพเดตเข้ามาโดยอัตโนมัติ 
  • ส่วนถ้าเลือกเชื่อมต่อกับปฏิทิน จะสามารถดูปฏิทินต่างๆ และวันเกิดในปฏิทินได้ทันที ซึ่งจะทำให้ติดต่อกับเพื่อนๆ ได้อย่างง่ายดาย 
  • การแชร์ หรืออัพเดตสถานะต่างๆ  มีความสะดวกมากขึ้น เช่น เมื่อต้องการอัพโหลดรูปจากอัลบั้มภาพขึ้น Facebook เพียงแตะไปที่ภาพ แล้วแตะไอคอนลูกศรด้านล่างซ้ายของหน้าจอ จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการ แล้วเลือกโพสต์อัพเดต เพียงเท่านี้สามารถแชร์รูปภาพบน Facebook ได้ทันใจ
  • ถ้าต้องการแชร์ภาพจาก Safari ทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการเปิดเว็บไซต์ แตะไปที่ภาพที่ต้องการ แล้วแตะที่ไอคอนลูกศรด้านล่าง จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการแล้วแตะไปที่โพสต์อัพเดต
  • นอกจากนี้ ยังสามารถอัพเดต Facebook ได้รวดเร็วจากแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อาทิ Map, App Store, iTunes, Game Center รวมไปถึงศูนย์การแจ้งเตือนที่สามารถอัพเดตข้อมูลขึ้นไปบน Facebook ได้ 


7.  Camera การถ่ายภาพแบบ Panorama 
ผู้ที่รักการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะการถ่ายภาพมุมกว้างแบบพาโนรามาจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยคุณสมบัติใหม่ของ iOS 6 ที่ทำให้การถ่ายภาพพาโนรามา 240 เป็นไปอย่างง่าย โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเสริม
เริ่มจากเข้าไปที่หน้าจอหลัก หลังจากนั้นแตะไปที่กล้อง แล้วเลือกพาโนรามา และแตะไปที่การถ่ายภาพ ระบบจะเริ่มถ่ายภาพทันที จากนั้นให้หมุนหน้าจอ iPhone อย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ภาพมุมกว้างสวยๆ แปลกตาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 





(c) http://news.siamphone.com/news-09463.html

5 วิธีเซฟแบตเตอรี่บน iOS 6



หลายๆคนอัพเกรด iOS 6 แล้วพบปัญหากวนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคีย์บอร์ดภาษาไทยแบบ 4 แถว แผนที่ Apple Maps รวมไปถึง “แบตเตอรี่หมดเร็ว” ทางแก้ของเราตอนนี้คือการทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ประหยัดแบตให้มากที่สุด และอาจจะต้องพึ่งแบตเตอรี่พกพาเพื่อชาร์จอุปกรณ์ iOS ขณะอยู่ข้างนอก เรามีคำแนะนำในการประหยัดแบตเตอรี่มาฝาก
ปัญหาเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง เป็นปัญหาที่บ่นกันทุกครั้งที่ Apple ออก iOS เวอร์ชั่นใหม่ และเมื่อ iOS 6 และ iPhone 5 ออกวางจำหน่ายในหลายๆประเทศ (ในประเทศไทยจะมีจำหน่ายอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้)
วิธีการที่เราจะแนะนำก็คือ การปิดคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นในการใช้งาน เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งาน บางคุณสมบัติก็มีการรันแบบแบล็คกราวน์ คุณสามารถเลือกปิดในบางคุณสมบัติหากไม่ได้มีการใช้งาน และเปิดเมื่อต้องการใช้งาน เพื่อยืดระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น


1) ปิดการเชื่อมต่อทุกอย่างที่ไม่ได้จำเป็นในการใช้งาน
ปิดการเชื่อมต่อ Cellular Data ที่ไม่จำเป็น 3G, 4G (หากตัวเครื่องรองรับ) ปิด Wi-Fi, Bluetooth, Data Roaming, Personal Hotspot หากไม่ได้มีการใช้งาน ส่วนใครที่ชอบเลือก Wi-Fi ให้จับสัญญาณอัตโนมัติ ให้ปิดไว้เลย หากต้องการใช้งานจริงๆค่อยเปิด ส่วนใครที่ใช้ iPhone 5 แนะนำให้ปิด LTE รวมไปถึงการปิด Facetime ด้วย

2) ปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
ตอนแรกๆหลายๆคนก็ชอบกับการแจ้งเตือน เวลามีคนมาคอมเมนต์ มากด like ใน instagram แต่รู้ไหมว่า ตอนนี้หลายๆคนมีทั้ง Line, Whatsapp, Twitter, Instagram, Path ยิ่งสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ ปิดการแจ้งเตือนให้หมด รวมไปถึง Facebook ด้วย และหากคุณไม่ใช่คนที่ใช้งาน Facebook ตลอดเวลา ในช่วงเวลาเรียน ทำงาน อาจจะล็อกเอ้าท์ออก กลางคืนกลับบ้านค่อยล็อกอินเข้าใช้งานก็ช่วยประหยัดแบตได้มาก เพราะถึงแม้ว่าคุณไม่ได้เปิดใช้งาน แอพอย่าง twitter ก็มีการตรวจสอบข้อความใหม่ มีการถ่ายโอนข้อมูลซึ่งมีผลกับแบตเตอรี่

2.1 ปิดการแจ้งเตือนจากแอพ
เข้าไปที่เมนู Setting ของแอพ และตั้งค่ากำหนด Notification เอง เพราะบางแอพจะมีให้เลือกปิดการแจ้งเตือนจากแอพ ในตัวอย่างเป็นการปิดการแจ้งเตือน Whatsapp, Facebook โดยกำหนดค่าในแอพ

3) ปิดการแจ้ง Push Mail
บางครั้งการรออีเมล์สำคัญก็จำเป็น แต่หากคุณไมได้ทำงานที่ต้องเฝ้ารออีเมล์อย่างเร่งด่วน รีบตอบอีเมล์เดี๋ยวนั้น การปิดการแจ้งเตือน Push ทำให้ช่วยประหยัดแบตได้มาก เพราะตอนนี้หลายๆคนก็ใช้หลายบัญชีอีเมล์ ยิ่ง Push ยิ่งเปลืองแบต โดยตั้งค่า Setting > Mail, Contacts, Calendar > Fetch New Data เลือก Off หรือเลือก Advance เพื่อกำหนดให้ Push เฉพาะบัญชีอีเมล์สำคัญเท่านั้น

4) ปิด Auto Lock หน้าจอ, ลดความสว่างแสงหน้าจอ

5) ใช้ Readling List
วิธีนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเซฟแบตโดยตรง แต่เราสามารถดาวน์โหลดเว็บไซต์ทั้งเว็บ เก็บไว้ดูตอนที่ไม่มีการเชื่อมต่อได้ หากเราปิด 3G หรือปิด Data บน iOS 6 สามารถอ่านหน้าเว็บแบบออฟไลน์ คือไม่ต้องต่อเน็ต เช่น การอ่านบทความยาวๆ กระทู้ยาวๆ ในภาพลองเปิดเว็บไซต์ IT24hrs.com แล้วเลือก Add to Reading List จากนั้นเปิด Airplane Mode แล้วอ่านหน้าเว็บได้เลยโดยไม่ต้องต่อเน็ต

สำหรับวิธีสุดท้าย ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ นั่นคือซื้อแบตเตอรี่ต่อภายนอกเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นแบบพกพา แบบเสียบด้านล่างของอุปกรณ์ iOS หรือแบบเป็นเคสพร้อมแบตเตอรี่ในตัว


(c) http://www.it24hrs.com/2012/how-to-save-battery-life-on-ios-6-iphone-5/

iOS 6 มาแล้ว อัพเดทดีมั้ย อัพเดทยังไง มีอะไรใหม่ มาดูกัน



เมื่อคืนนี้เวลาเที่ยงคืน ทาง Apple ได้ปล่อย iOS 6 ออกมาให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้อัพเดทกันอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งหลายๆคนก็ยังงงๆ ว่าเราควรจะอัพดีมั้ย? และอัพยังไง? วันนี้ผมจะมาไขข้องข้องใจต่างๆให้เพื่อนๆกันครับ
 
iDevice รุ่นไหนอัพ iOS 6 ได้บ้าง

 
- iPhone 3GS
- iPhone 4
- iPhone 4S
- iPod Touch Gen 4
- iPad 2
- New iPad
 
iOS 6 มีอะไรใหม่ อัพดีรึป่าว?
 
ขึ้นชื่อว่าของใหม่ ย่อมต้องดีกว่าของเก่าเป็นธรรมดา ก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนว่ามีอะไรใหม่ๆรอเราอยู่บน iOS 6 (เอาแค่หลักๆที่เด่นๆพอนะครับ)
 
 
- เริ่มจาก Siri กันก่อน โดยทาง Apple ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้ Siri สามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรายงานผลกีฬา, เช็ครอบหนัง , สั่งให้เปิด-ปิดแอพฯ, ใช้งานร่วมกับแผนที่ ฯลฯ รวมไปถึงสามารถรองรับได้เพิ่มเป็น 15 ภาษาแล้วด้วย(แต่ก็ไม่มีภาษาไทยอยู่ดี)
- แอพฯ Facebook จะถูกฝังไว้กับ iOS ทำให้สามารถแชร์หรือโพสข้อความต่างๆได้อย่างรวดเร็ว(ไม่ต้องเข้า App Facebook อีกต่อไป) รวมไปถึงถูกฝังอยู่ตาม Notification center หรือจะสั่งให้ Siri โพสข้อความให้เราก็ได้ อีกอย่างเราสามารถกดไลค์แอพพลิเคชั่นที่เราชอบเพื่อแชร์ไปยัง Facebook ได้ด้วยหล่ะ
- เพิ่มความสามารถให้ฟังก์ชั่นการ โทรออก-รับสาย(Phone) ถ้าไม่สะดวกรับสายก็สามารถตัดสายพร้อมกับส่งข้อความไปบอกได้ว่ากำลังยุ่งอยู่ 
- ใช้งาน Facetime ผ่าน Cellular Data ได้แล้ว
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ Email
- เพิ่มฟีเจอร์ Do Not Disturb (ตั้งเวลาไม่ให้มีโทรศัพท์มารบกวนเวลานอน)
- มาพร้อมแอพฯใหม่ Passbook
- New map แผนที่ตัวใหม่ที่พัฒนาโดย Apple เอง ที่สามารถใช้นำทางได้ และสามารถแสดงผลแบบ 3D ได้ด้วยครับ
- มาพร้อม Keyboard ภาษาไทยแบบ 4 แถว
- นอกจากนั้นก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆกว่า 200 อย่าง

* ฟีเจอร์บางก็ยังใช้ไม่ได้กับ iDevice บางรุ่น อยารู้ว่ารุ่นไหนใช้ฟังก์ชั่นอะไรได้บ้างดูได้ที่ http://www.siamtab.com/topic/13-06-2012-which-ios-6-features-can-my-device-run/ 
** ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.siamtab.com/topic/12-06-2012-new-featured-about-ios-6/
 
 
ซึ่งจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากมายบน iOS 6 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีเหตุผลสำหรับบางคนที่ยังไม่ควรอัพเดทเป็น iOS 6 อยู่นิดหน่อย ดังนี้เลยครับ
1. สำหรับ iPhone เครื่อง Locked(เครื่องติดสัญญา)ที่ต้องปลดล็อคด้วยการ Jailbreak อย่าเพิ่งอัพเป็น iOS 6 
2. สำหรับคนที่เคยชินกับคีย์บอร์ดไทยแบบ 3 แถวอย่าเพิ่งอัพเป็น iOS 6 (เพราะมันจะกลายเป็นแบบ 4 แถวที่ทำให้คุณไม่ชินกับการพิมพ์)
 
**ปล. พวก iPhone เครื่องศูนย์ไทยหรือเครื่อง Unlock รวมไปถึง iPod Touch, iPad อัพได้ปกติครับ
 
 
วิธีการอัพเดทเป็น iOS 6
 
สำหรับวิธีการอัพเดทก็ทำได้ง่ายๆเลยครับ เราสามารถอัพเดทได้ 2 วิธีคือ ผ่านทางคอมพิวเตอร์ และ ผ่านทาง OTA ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน เพื่อนๆอย่าลืม Backup ข้อมูลไว้ด้วยนะครับ ลองไปดูภาพประกอบด้านล่างเลย
 
วิธีอัพเดท iOS 6 ผ่านทางคอมพิวเตอร์ (วิธีที่ 1)
 
วิธีการนี้ค่อนข้างง่าย ก่อนอื่นก็ต้องมีโปรแกรม iTunes 10.7 (เวอร์ชั่นล่าสุด) และคอมพิวเตอร์เราก็ต้องต่ออินเตอร์เนตด้วย หลังจากนั้นก็เชื่อมต่ออุปกรณ์ iDevice ของเราเข้ากับคอมพิวเตอร์ 
 
backup ไว้ก่อน
 
หลังจากนั้นก็ดูตรงอัพเดทว่าเป็น iOS 6.0 รึยัง ถ้าเป็นแล้วก็อัพเดทได้เลย โดยทางระบบก็จะโหลดไฟล์ iOS 6 ของอุปกรณ์ที่เราเชื่อมต่อมาให้โดยอัตโนมัติ(ตรงนี้อาจรอนานหน่อย) แต่พอโหลดเสร็จก็จะมีให้กดอัพเดทอีกครั้ง พอเสร็จเรียบร้อยอุปกรณ์ของเราก็จะเป็น iOS 6 แล้วครับ
 
 
วิธีอัพเดท iOS 6 ผ่านทางคอมพิวเตอร์ (วิธีที่ 2)
 
วิธีนี้จะคล้ายกับวิธีแรกแต่จะต่างกันตรงที่เราสามารถไปโหลดไฟล์ iOS 6 ให้ตรงกับอุปกรณ์ของเราจากลิ้งค์ตรง มาไว้ที่คอมพิวเตอร์แล้วให้เรากด Shift + Restore (ตามภาพด้านล่าง) แล้วเลือกไฟล์ที่เราโหลดมา หลังจากนั้นก็รอจนเสร็จก็เป็นอันเรียบร้อย
 
ปล. ใครใช้ Mac ให้กด Option + Restore แทน 

ลิ้งค์ดาวน์โหลด iOS 6 สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ

-
 iPod Touch Gen 4 
- 
iPhone 3GS
iPhone 4
iPhone 4S
iPad 2 WiFi + 3G
iPad 2 WiFi Only
The New iPad  WiFi+3G
The New iPad WiFi

 
 
วิธีอัพเดท iOS 6 ผ่านทาง OTA (บนอุปกรณ์ของเรา)
 
วิธีนี้ง่ายสุดๆครับ เพียงเราเข้าไปที่ Setting>>General>>Software Update ก็จะขึ้นมาให้เราอัพเดทเลยครับ (แนะนำให้เชื่อมต่อผ่าน WiFi นะครับ เพราะไฟล์ใหญ่)
 
 
 
 
 
(c)  http://www.siamtab.com/topic/20-09-2012-tip-how-to-update-ios6/

iOS 6 ดาวน์โหลด พร้อมวิธีอัพเดท




แอปเปิลได้ปล่อยให้ดาวน์โหลด iOS 6 กันไปแล้วเมื่อวาน และการเปลี่ยนแปลงที่แฟนๆ ได้พูดถึงกันมากสุด คือ ประสบการณ์ใหม่ของคีย์บอร์ด 4 แถว สำหรับใครที่ยังไม่ได้อัพเดท สามารถดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์ตรงด้านล่าง แต่ก่อนที่จะอัพเดทนั้น มาดูขั้นตอน ข้อดี ข้อเสีย ของสิ่งที่จะได้มาและเสียไปกันก่อน !!


iOS 6 direct link Dowload


( รองรับ iPhone 3GS , iPhone 4 , iPhone 4S , iPhone 5 ,
iPod touch (4th gen) , iPod touch (5th gen) , iPad 2 ,The new iPad )

Apple iOS 6 for iPhone 3GS
Apple iOS 6 for iPhone 4 (True, AIS, Dtac และเครื่อง GSM อื่นๆ ใช้อันนี้)
Apple iOS 6 for iPhone 4 AT&T
Apple iOS 6 for iPhone 4 Verizon
Apple iOS 6 for iPhone 4S  (True, AIS, Dtac และเครื่อง GSM อื่นๆ ใช้อันนี้)
Apple iOS 6 for iPod Touch 4G
Apple iOS 6.0.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 2 New): iPad2,4_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.0_10A403_Restore.ipsw
Apple iOS 6.0.0 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.0_10A403_Restore.ipsw


*** การอัพเดท iOS 6 ผ่าน iTunes อาจมีปัญหาและไม่สำเร็จ หากสัญญาณอินเตอร์เนตขัดข้อง และไม่แรงพอ จึงควรโหลดไฟล์ดิบด้านบนมาลงเครื่องก่อน และหากทำการดาวน์โหลดผ่านบราวเซอร์ อาทิ Firefox Chrome แล้วเป็นไฟล์ .zip ไม่ต้องแตกไฟล์


ให้เปลี่ยนนามสกุลไฟล์แทนเข้าไปที่  My Computer > Tools > Folder options > Tab View ติ๊ก Hide extention for know file types ออก เราจะเห็นนามสกุลของไฟล์ทั้งหมด จากนั้นค่อยเปลี่ยนนามสกุลจาก .zipให้เป็น .ipsw ( สำหรับผู้ใช้วินโดวส์ )


วิธีการอัพเดท iOS 6


1 .  OTA Update ผ่านตัวเครื่องเลย ไม่ต้อง Backup ทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้วเข้าไปที่ Settings > General > Software Update > Download and Install ( สำหรับเครื่อง iOS 5 + เท่านั้น อาจพบบั๊กส์หลังดาวน์โหลด เช่น เปิด wifi ไม่ติด, auto-lock )


2.  ดาวน์โหลด ios6 จากลิ้งค์บนสุดเป็นไฟล์ .IPSW มาเก็บไว้ก่อน กดปุ่ม Shift +  Update บน iTunes จากนั้นเลือกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา  แล้วอัพเดทจนเสร็จ

เปิด iTunes กดปุ่ม Shift +  Update

เลือกไฟล์ที่ iOS 6 ที่ดาวน์โหลดไว้

จิ้ม Update

พัก…จิบกาแฟ ><

เสร็จแล้ว กด OK เพื่อรีสตาร์ท

3. โหลดไฟล์ iOS 6 จากลิ้งค์ด้านบน ทำการเปลี่ยนนามสกุลหากเป็น .Zip จากนั้นทำการ Backup ด้วยiTunes เสร็จแล้วเชื่อมต่อไอโฟนกับคอมพ์ แล้วทำการ restore original firmware ด้วยการกดปุ่มShift+Restore บน iTunes

เลือกไฟล์ iOS 6 ที่โหลดมาบนเครื่อง กด Open > เลือก Restore > OK > เมื่อเสร็จแล้วให้เลือกไฟล์Restore From Backup of : เพื่อรีสโตรว์ไฟล์ที่ Backup ไว้อีกที .

เปิด iTunes  แล้วกด Shift+Restore

เลือกไฟล์ iOS 6 ที่โหลดมา แล้ว Open

กด Restore

OK

ทำการ Backup ข้อมูลกลับมาเลือก Restore From Backup of :

***  iOS 6 นั้น แนะนำสำหรับผู้ที่ใช้เครื่อง Official unlocked จาก True, AIS, Dtac เจลเบรกหรือไม่ก็ได้ และไม่ซีเรียสกับคีย์บอร์ด 4 แถว ส่วนท่านที่ ไม่อยากได้คีย์บอร์ด 4 แถวนั้น ก็ไม่แนะนำให้อัพเดท รวมถึงผู้ที่ใช้เครื่อง Locked เจลเบรคปลดล๊อคด้วย ultrasn0w ใช้ซิม Gevey หรือ Turbo ผู้ที่ต้องการโหลดแอปฯ ผ่านCydia และผู้ที่ไม่มั่นใจว่าจะอัพเดทผ่าน!!



(c) http://tech.mthai.com/mobile-tablet/iphone/20494.html